

CREW
Smile View
B-BOY M
The MerGer







LOGO EMOTICON DESIGN เป็นโลโก้เก่าของ EMOTICON CHANNEL เปลี่ยนแค่ฟอนต์ TV เป็น Design เพราะต้องการลำลึกถึงอดีตที่ดี
ที่เคยผ่านมาของช่อง EMOTICON และ TMG


เริ่มจากที่ตัวเอง ไม่การแสดงออก และ ต้องการสร้างจุดยื่นให้ตนเอง "การเต้น" จึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดแล้วในตอนนั้น เพราะยุคนั้น (พ.ศ. 2549) การเต้นของฝั่งตะวันตก เป็นที่นิยมมากในไทย และนิยมสุดๆในตอนนั้น ก็จะมี B-Boy & Popping ที่มีทั้งงานโชว์ งานประกวด งานแข่ง จนไปถึงออกรายการต่างๆ ซึ่งผมเองนั้น ชอบ " B-Boy " ที่สุด จึงเริ่มหัดเต้น โดยอาจารย์คนแรกของผม คือ "เจมส์" เป็นรุ่นน้องในวิทยาลัย เจมส์นั้นเต้น B-Boy เป็นอยู่ก่อนแล้ว ผมจึงขอคำแนะนำและให้สอนเต้นในท่าต่างๆ ในขณะที่ผมกำลังฝึกฝนการเต้นอยู่นั้น เจมส์เองก็ฝึกเต้น " Popping " ด้วยเช่นกัน และคนที่เจมส์ขอคำแนะนำในการฝึกฝน คือ เบ็น ซึ่งเบ็นก็เป็น Popping อยู่แล้วเช่นกัน (ประวัติ BenDa) พวกเราก็ฝึกซ้อมเต้น ไปสักระยะ ก็เริ่มมีคนสนใจ ที่อยากจะขอให้สอนเต้นหรือมาฝึกซ้อมด้วย จำนวนคนก็มากขึ้น จึงทำให้ผุดไอเดีย ว่าเราควรสร้าง " TEAM " ไว้ไปออกงานโชว์ต่างๆ เบ็นจึงเสนอว่าเราควรมีชื่อทีม ที่ดูสนุก กวนๆ น่ารัก จึงเป็นที่มาของชื่อทีม DOOTALENZ CREW ทีมที่มีทั้ง B-Boy & Popping ผสมกัน โดยตรีมของทีมได้แรงบันดาลใจมาจากทีมที่มีชื่อเสียงอย่าง Jabbawockeez ใส่ -
หน้ากากเต้น ปิดบังตนเอง เปรียบเสมือนเราเป็นหุ่น
ซึ่งได้การตอบรับดีมากๆ แต่ผมกลับรู้สึกว่าทางในการเต้น Popping ของผมนั้น ไม่น่าจะรุ่ง เลยมุ่งสู่การเต้น B-Boy เพียงอย่างเดียว ผมจึงเริ่มหาสมาชิกเพื่อที่จะก่อตั้งทีมใหม่ ที่มีแต่ B-Boy โดยการส่องหาไปตามโรงเรียนต่างๆเพื่อหาเยาวชนอายุน้อยๆมาเป็นสมาชิกทีม ที่พอมีพื้นฐานในการเต้น B-Boy ซึ่งจะมีขอบเขตแค่ภายในจังหวัดสมุทรสาครเท่านั้น สุดท้ายผมก็รวบรวมทีมสำเร็จ แล้วตั้งชื่อทีมว่า " SMILE VIEW CREW " ซึ่งผมเอาชื่อเรื่องการ์ตูนที่ผมสร้าง มาตั้งเป็นชื่อทีม มีความหมายตรงตัว ดูแล้วยิ้ม หมายถึง เมื่อดูพวกเราโชว์เต้นแล้วจะทำให้ทุกคนมีรอยยิ้มมีความสุข แต่สุดท้ายก็ต้องยุบทีม





เนื่องจากปัญหาภายใน จนเหลือตัวผมคนเดียว ผมก็คงยังซ้อมอยู่เหมือนเดิม เต้นไปเรื่อยๆ เวลาไปลงงานแข่งหรืองานโชว์ที่ไหน ก็จะใช้ชื่อว่า " B-Boy M " และเวลาก็ผ่านไป 1 ปี มีวันนึงผมได้ไปรู้จักกับ

น้องธีม ที่ฝึกการเต้น Popping และ Free Running อยู่พอดี จึงได้พูดคุยกัน และมีไอเดียผุดขึ้นมาว่าการเต้นกับกีฬาเอ็กซ์ตรีม น่ารวมเป็นหนึ่งได้ เลยเริ่มชวนบุคคลในทีมเก่าๆอย่าง DooTaLenZ& Smile View มารวมทีมกันใหม่ ที่ใหญ่กว่าเดิม โดยเป้าหมายเราจะรวมการเต้นสตรีทแดนซ์(การเต้นหลากหลาย)และกีฬาเอ็กซ์ตรีมในสมุทรสาครให้เป็น หนึ่ง เดียว และใช้ชื่อว่า "The MerGer" ที่มีความหมายว่า การร่วมรวม หรือ การควบรวมกิจการ ให้เป็นหนึ่งเดียว สมาชิกตอนนี้ ยังน้อยมาก ผมจึงทำวิธี




เดิมคือ หาสมาชิกตามโรงเรียนต่างๆ แต่คราวนี้ต่างไปจากเดิม ตรงที่ผมใช้โซเชียลเข้าช่วยในการหาบุคลากรของทีมในด้านต่างๆ ในตอนแรกกะแค่ภายในจังหวัด แต่คราวนี้ เริ่มมีคนจากกรุงเทพที่สนใจในการเข้าร่วมทีม จึงทำให้ทีมขยายตัวไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งแยกออกเป็น 4 ทีม ได้แก่ ทีมหลัก , ทีมเสริม , ทีมผู้ช่วย , ทีมโปรดักชั่น แต่ละทีมจะมีจำนวนคนมากน้อยแตกต่างกันไป ทีมหลักมี 17 คน ทีมนี้จะเป็นทีมที่ออกงานโชว์ทุกงาน,ทุกงานแข่ง หรือร่วมแข่งขันออกรายการทีวี ในนาม TMG (The MerGer) ซึ่งจะมีคนจากทีมเก่าที่คุ้นเคยอยู่เยอะพอสมควร ต่อไป ทีมเสริมมี 20 - 30 คน ทีมนี้จะเยอะเป็นพิเศษ เพราะเป็นทีมต่างๆที่อยากร่วมสังกัดในนาม TMG มีชื่อทีมเป็นของตัวเอง อยู่กันต่างสถานที่ ไม่มีข้อบังคับใดๆ ถ้าอยากมาโชว์มาแข่งหรือมาซ้อมด้วยกัน เอาตามที่สะดวก เน้นแลกเปรียบประสบการณ์และความสนุกไปด้วยกัน และไปต่อกัน
ที่ ทีมผู้ช่วยมี 3 คน ทีมนี้มีจำนวนน้อยแต่เน้นคุณภาพ คนแรกคือผู้ประสานงาน,หางาน ไม่ว่าจะงานโชว์หรืองานแข่ง รวมไปถึงงานที่ไปร่วมแข่งขัน
ในรายการทีวีด้วยเช่นกัน หาสปอนเซอร์ ฯลฯ คนที่สองเป็น DJ&VJ คอยประกาศพูดบนเวทีและเปิดเพลง มิกซ์เพลง ในงานโชว์ต่างๆ คนที่สามคนสุดท้าย เป็นกราฟฟิตี้ เผยแผ่ผลงานงานศิลปะแนวสตรีท โดยมี TMG เป็นองค์ประกอบในผลงงาน คล้ายๆเป็นการตลาดป้ายไวนิล ที่เราเห็นกัน แต่อันนี้จะโชว์ตามกำแพงเก่า ตึกร้าง ที่มีผู้คนสัญจรเยอะ เป็นต้น ก็มาถึงทีมสุดท้าย ทีมโปดักชั่น มีแค่ 3 คน เช่นกัน คนแรกนี่ตัวหลักเลย คือ น้องธีม นี่เอง เป็นทั้งตากล้อง/Editor คลิปต่างๆ ของ TMG ทั้งหมดมาจากฝีมือ ธีมทั้งนั้น ซึ่งตอนแรกธีมนั้นเป็นเดอะแบก ทำหลังบ้านของTMGเพียงผู้เดียว เวลาออกงานจึงต้องหาคนช่วย จึงมีคนที่สองตามมานั่นคือ BenDa ที่มีกล้องอยู่จึงอาสาที่จะช่วยถ่ายวีดิโอเวลาไปออกงาน ทำหน้าที่เยอะจริงๆคนนี้ มีตากล้องมีตัดต่อ แต่เหมือนจะขาดอะไรไปอย่างนึงนะ....นั่นคือ คนทำภาพนั่นเอง เรายังขาด Graphic Design แล้วจะไปหาที่ไหนละทีนี้ ยุคนั้น ค่าจ้างพวกออกแบบและตัดต่ออยู่ในราคาค่อนข้างสูง เพราะจำนวนคนที่ทำได้หรือจบงานสายนี้ยังไม่เยอะเท่าทุกวันนี้ ที่ธีมตัดต่อเป็นถือว่าเป็นความโชคดีอย่างมากสำหรับTMG ตอนนั้นผมไม่มีทุนมากพอที่จะจ้างใครได้ จึงพยายามคิดหาวิธี จนในที่สุดผมก็นึกออกว่า "ในเมื่อเราไม่มีตังค์จ้าง ก็ทำเองสะเลยสิ" ไอเดียบรรเจิดมาก พูดเหมือนง่ายแต่ความจริงนั้นยาก คือตัวผมจบสายอาชีพมา ทำแต่ด้านอิเล็กทรอนิกส์ พวกออกแบบไม่เคยทำเลย และในความมืดแปดด้านในตอนนั้น ยังมีแสงสว่างให้ผมได้เดินต่อได้ คือในอดีตผมเอง มีความสามารถพิเศษด้านวาดภาพจิตรกรรม ชอบวาดตั้งแต่เด็กๆ วาดเรื่อยมาจนเข้ามัธยม ก็เข้าชมรมศิลปะ ตั้งแต่จบมัธยมมา ผมก็เลิกวาดภาพไปเลย แสดงว่าด้านความคิดสร้างสรรค์ผมมีอยู่แล้ว แค่ต้องเรียนรู้เพิ่มเติม ส่วนการใช้โปรแกรมออกแบบ เช่น PS , AI ผมทำงานอยู่สายคอมอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาเลย คราวนี้ผมก็เริ่มหาแหล่งศึกษา เช่น จาก Google , Youtube และ หนังสือตามร้าน E-BOOK ที่มีสอนแทบจะทุกเรื่องที่ผมต้องการ จากคนทำไม่ได้ ผมก็เริ่มทำเป็น และ ทำกราฟฟิก ให้กับ TMG เรื่อยมา





ซึ่งตอนนี้ TMG มีครบทุกอย่างแล้ว จึงพร้อมเดินหน้าต่อไป เป้าหมายต่อไป คือ ผมอยากให้ TMG มีไปโชว์ในงานสโมสรลีโอไทยแลนด์ตามจังหวัดต่างๆ เหมือนที่ผมเคยไป เมื่อก่อนนั้นผมไปโชว์เต้นเดี่ยว ตามจังหวัดต่างๆ ที่มีการประชุมของสโมสรไลออนส์และสโมสรลีโอ คราวนี้ผมอยากไปในนาม TMG จึงเข้าไปติดต่อผู้ใหญ่ และหาสปอนเซอร์ เพื่อที่มีทุนในการเดินทางมีค่ากินค่าที่พัก ไปสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จัก TMG ได้เดินทางไปโชว์ตัวที่งานการประชุมลีโออยู่ 2 ครั้ง ซึ่งเป็นความทรงจำที่ดี ที่เราได้ไปเจอผู้คนมากมายแลกเปลี่ยนพูดคุยกัน เป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องกัน ตอนนี้ TMG เริ่มรู้จักเป็นวงกว้างแล้ว ในฐานะทีมเอ็กซ์ตรีมที่มีความหลากหลาย เป้าหมายต่อไปของผมคือการไปร่วมแข่งขันในรายการทีวี และรายการที่ได้ไป คือ โหด-มันส์-ฮา และ GAMBOL Badball Challenge 2 เป็นประสบการณ์ที่สนุกมาก และเวลาสนุกก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนมาถึงยุคที่การเต้นสตรีทแดนซ์หรือกีฬาเอ็กซ์ตรีม ผู้คนส่วนมากมองเห็นเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้ดูหน้าตื่นเต้นอะไร เมื่อคนสนใจน้อยลง งานก็น้อยลง คนในทีมก็เริ่มโตเข้ามหาวิทยาลัยบางคนก็เริ่มทำงาน เวลาก็น้อยลง ซ้อมก็แทบมากันไม่ได้แล้ว จนในที่สุดผมตัดสินใจที่จะยุบทีม TMG ให้เหลือแค่ความทรงจำที่เคยได้ร่วมสนุกร่วมทำกิจกรรมกันมา ผมจึงรวมคนทีมหลักทุกคนเท่าที่จะรวมได้ถ่ายวิดิโอพรีเซนต์ตัวเอง และเต้นโชว์สกิล ครั้งสุดท้ายก่อนอำลากันไป มีอนาคตของตนเอง _____The MerGer END
หลังจากการปิดตัวลงของ TMG ทำให้ผมเคว้งคว้างพอสมควร สิ่งที่เคยทำเป็นประจำเช่น ไปซ้อมเต้น ทำกราฟฟิกภาพ ฯลฯ ตอนนี้ผมไม่ต้องทำแล้ว อีกอย่างความฝันของผมที่อยากมีความกล้าแสดงออก สร้างตัวตนให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งผมก็ทำสำเร็จไปแล้ว ก็คงกลับสู่ภาวะของคนทั่วไป ทำงาน กลับบ้าน พักผ่อน และวันเวลาก็ผ่านไป จนมาถึงยุคที่ YouTube บูมมากๆจากการที่มีคนไทย เริ่มสร้างช่องของตัวเองเป็นยูทูปเบอร์มากขึ้นเรื่อยๆ ที่ตอนนั้นมาแรงๆเลย ก็ VRZO , FEDFE ที่เป็นยูทูปเบอร์ เบอร์ต้นๆในยุคนั้น ที่ทำเกี่ยวกับวาไรตี้ รายการของตัวเอง ผมเองจึงเกิดไอเดียว่า "เออ เราเองก็น่าจะทำได้นะ" อีกแล้วครับท่าน แต่ก็เป็นเรื่องจริง เรามีคนตัดต่อได้ เราทำกราฟฟิกได้ มีคนที่กล้าแสดงออก ก็น่าจะทำได้แล้วไหม เมื่อผมคิดแบบนั้น ผมจึงติดต่อกับทางน้องธีมไป ว่ามาตัดต่อให้รายการที่ผมจะสร้างได้ไหม ผมได้คำตอบกลับมาว่า "ผมมีช่องของผมอยู่แล้วพี่ ตอนนี้กำลังทำอยู่" เอาจริงสิ น้องมันมีช่องของตัวเองมาตั้งนานแล้ว แต่แค่ตอนนั้นมามุ่งทำ TMG กันเป็นหลักเท่านั้นเอง ทีนี้ไม่มีคนตัดต่อละ ทำไงดีหว่า? ....คิดง่ายละกัน ทำเองละ เหมือนเดิม ฮาๆ แน่นอนก็ทำแบบวนลูปกันไป ศึกษาการตัดต่อ จากแหล่งต่างๆแล้วลองทำ พอเริ่มทำเป็นละ คราวนี้ ก็เหลือ คนแสดงออกหน้ากล้อง ผมจึงติดต่อ คนที่กล้าแสดงออกที่สุด มีแววเป็นนักแสดงได้เลย ก็คือ น้องต่อ ที่อดีตเป็นตัวหลักนักเต้นบีบอยของ TMG ที่มีนิสัยขี้เล่น บางทีก็เล่นขี้ แหะ!! 555 และคนต่อมาคือ เคน ,บอล และ โบ้ ที่ก็เป็นอดีตนักเต้นของ TMG ดึงตัวมาแสดงอีก 4 คน ตอนนี้รวมผมด้วย ก็ 5 คน ทีมงานของรายการผม และผมก็มานั่งคิดต่อว่า จะตั้งชื่อว่าอะไรดี เอาใกล้ตัวผมที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นความชอบของผม ผมเลยเอาชื่อที่ผมชอบมาตั้งเป็นชื่อช่องยูทูปสะเลย ชื่อว่า " Emoticon TV " เมื่อองค์ประกอบครบแล้ว ก็เริ่มถ่ายได้ ....เดี๋ยว! จะใช้อะไรกล้องอะไรถ่ายละ ปกติ จะเป็นกล้องของ น้องธีมและBenDa ถ่ายสนุกๆ กล้องมือถือนี่ละ ชัดละสมัยนี้ และนี่




คือ ที่มาของคลิปแรก คลิปสั้นตลก ไม่มีสาระอะไร กระแสตอบรับของคลิปแรก พอถูไถ55 หลังจากนั้น ผมก็ค่อยพัฒนามาเรื่อยๆ ทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน ตัวผมก็พัฒนาหาความรู้การทำกราฟฟิกและการตัดต่อ แต่ตัวฮาร์ดแวร์คอมและอุปกรณ์เสริมรอไปก่อน เพราะยังไม่มีทุน ส่วนอุปกรณ์ถ่ายทำหรือตากล้อง โชคดีที่น้องธีมคนดีคนเดิม อาสาช่วยเหลือเป็นตากล้องให้ฟรี บางงานบางโอกาส ในส่วนไหนถ่ายด้วยมือถือก็ถ่ายไป ปัญหาด้านอุปกรณ์ก็หมดไป ส่วนคอนเทนต์ผมยังไม่เน้นอะไรมาก ทำคลิปส่งประกวดหรือเข้าร่วมกิจกรรม กับโปรดักส์หรือแบนด์ต่างๆไปก่อน เพราะเป็นการหาทุนและสร้างชื่อไปในตัว มีคลิปที่ได้บ้างไม่ได้บ้างก็เป็นประสบการณ์กันไป จนผมเริ่มเปลี่ยนมาเน้นความหลากหลายและความท้าทาย โดยการที่ผมอยากลองทำ หนังสั้น , ซีรีย์ , รายการของตัวเองบ้าง สร้างแบบเท่าที่เราจะมีทุนพอสร้างได้ จึงเริ่มใช้วิธีการเดิม คือ หานักแสดงและทีมงานต่างๆ ผ่านโซเชียลตามกลุ่มต่างๆ หรือหาคนสนิทคนรู้จักใกล้ตัวมาช่วยๆกัน โดยไม่มีค่าตัวให้ แต่มีข้าวกลางวันเลี้ยง อยากให้มาด้วยใจ
มาสนุก แบบร่วมกิจกรรมกัน ซึ่งตอนแรกผมแทบจะไม่คาดหวังอะไรเลย เพราะมันเป็นไปได้ยาก ที่จะหาคนๆนึง มาช่วยงานเราแต่ไม่จ่ายค่าจ้าง ต่อให้เรารู้จักยังยากเลย นี่ไปหาคนที่ไม่รู้จัก แต่ผมดันโชคดีที่พวกน้องๆวัยเรียน สนใจอยากลองร่วมแสดงดู บางคนก็มาจากคนในทีมที่แนะนำมาอีกที จนผมได้ ทีมงานที่เยอะมากจนน่าตกใจ จนสามารถสร้างหนังสั้นได้ สร้างซีรีย์ได้ และรายการทีวีได้ โดยผมเองก็ได้ประสบการณ์ ได้เรียนรู้แล้ว ว่าการทำงานProductionมันยากลำบากแค่ไหน ตัั้งแต่ PRE - POST ว่าไม่ใช่ง่ายๆเลย ถ้าจะทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว หรือ ทีมเบื้องหลังที่มีแค่ 2 คน ผมกับรุ่นน้อง ซึ่งมันยากที่จะทำออกมาให้ดีแบบ100% แค่ตัวผมที่ต้องทำงานประจำ และต้องแบ่งเวลาว่างทั้งหมดที่มี มาทำทั้งหมดนี้ ก็แทบไม่มีเวลาได้พักผ่อน ถึงจะเหนื่อยมากๆ กับการทดลองกับสิ่งที่ผมอยากจะทำ แต่ข้อดีที่ได้มาคือทำให้ผมทำ Graphic Design และ Editor ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะได้ทำจริง จากการทำหนังสั้น,ซีรีย์ และรายการออนไลน์ รู้ปัญหาต่างๆ รู้จุดบกพร่องที่จะนำไปพัฒนาต่อในอนาคตได้ ถ้าจะทำอีก อย่างที่บอกครับ ด้วยคำว่าผมคือ ตัวหลักคนเดียว ถ้าผมไม่ว่างและไม่ทำสักคน YouTubeช่องผมก็หยุดอยู่กับที่ และไม่สามารถก้าวไปถึงคำว่า " YouTuber " ได้ ด้วยภารกิจชีวิต ตอนนั้นผมก็ติดทหารถึง 2 ปี ทำให้ไม่สะดวกในการทำอะไรเลย กว่าจะได้กลับบ้าน ก็นานๆที เสียเวลาไป 2 ปีที่ไร้ประโยชน์มากๆ หลังจากปลดประจำการ และก็สู่เข้าทางธรรม บวช 1 พรรษา สึกออกมา ทำคลิปอีก 3-4 คลิป นักแสดงที่เคยร่วมงานก็ไม่สะดวกที่จะมาทำแล้วเช่นกัน แถม..ช่องยังมาถูกแฮกไปอีก ต้องมาอัพคลิปช่องใหม่ ยอดฟอลโล่และยอดวิวก็ต้องมานับเริ่มจาก 0 ใหม่ เมื่อทุกอย่างมันไม่อำนวยผมอีกต่อไป สุดท้ายผมก็หมดไฟ ที่จะทำต่อและยุติการทำช่องยูทูป " EMOTICON CHANNEL " อย่างเป็นทางการไปแบบเงียบๆ เหลือแต่ช่องใหม่ที่อัพคลิปไว้บางส่วน และนำคลิปเก่าๆของ TMG มาลงไว้ในช่องEMOTICONด้วยเช่นกัน เผื่อใครคิดถึงก็จะได้กดเข้าไปดูได้ .....EMOTICON CHANNEL END




เวลาก็ล่วงเลยมาหลายปี ที่ผมเลิกทำทุกอย่างเกี่ยวกับ EMOTICON CHANNEL แต่งานด้าน Graphic Design และ Editor ก็คงยังทำอยู่เป็นงานประจำสลับไปมาระหว่าง IT และ Graphic กับงานที่ผมทำ ถึงจะดูแปลกๆ แต่มันก็ืทำงานด้วยกันได้ในบางเรื่อง เช่น Website หน้าตา UX/UI ก็มีบทบาทด้วยเช่นกัน จนมาถึงตอนนี้ ผมก็ไม่เคยรับงานฟรีแลนด์เลยสักครั้ง จนยุคโควิดนี่ละครับ คือ จุดกำเนิด EMOTICON DESIGN ที่แท้ทรู ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่รายได้จากค่าจ้างประจำไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิต จึงต้องขยันทำงานเพิ่ม จากที่ไม่เคยรับงานฟรีแลนซ์มาก่อนในชีวิต ปกติจะทำแต่ของตัวเอง ก็ต้องมาเปิดรับงานเป็นจริงเป็นจังก็คราวนี้ พออ่านมาถึงจุดนี้ ต้องขอบคุณมากๆนะครับที่อ่านเรื่องราวการเดินทางของผม และก็อยากให้ลองเชื่อใจผมว่าสามารถออกแบบงาน ดีไซน์งาน ของคุณลูกค้าได้ดีอย่างแน่นอน เพราะผมชอบพัฒนาตัวเองอยู่สม่ำเสมอ งานก็ต้องดีขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกัน ขอฝาก EMOTICON DESIGN เป็น 1 ตัวเลือกให้คุณลูกค้าวางใจ จัดจ้างงานกับทางผมนะครับ ( ^ _ ^ )